4 แนวทางการเลือกประกันให้เหมาะกับเรา
การวางแผนชีวิตและแผนอนาคตถือจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดมากกว่าได้ ซึ่งหากวางแผนได้ดีก็จะทำให้ชีวิตอนาคตราบรื่นเป็นอย่างมากเลยหล่ะครับ เฉกเช่นเดียวกับการเลือก “ประกันภัยที่เหมาะสม” ถ้าเลือกไม่ผิด ก็จะหมดห่วงคนรุ่นหลังได้เลยหล่ะครับ บทความนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปค้นหาและเปรียบว่า “เลือกประกันแบบไหนถึงจะเหมาะ” เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเล้ย!!
ข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญเกี่ยวกับบุคคลในการทำ “ประกันภัย”
1. ผู้รับประกันภัย คือบริษัทประกันชีวิต ซึ่งหมายถึงบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจประกันชีวิต เพื่อรับประกันต่อความสูญเสียหรือความเสียหายต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคล โดยสัญญาว่าจะจ่ายชดเชยให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับผลประโยชน์เมื่อมีการเสียชีวิต และอาจมีความคุ้มครองอื่น ๆ เช่น การประกันอุบัติเหตุและสูญเสียอวัยวะ การประกันกรณีทุพพลภาพ หรือการประกันสุขภาพ (ดูรายชื่อบริษัท)
2. ผู้เอาประกันภัย คือบุคคลที่ตกลงทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทฯ โดยอาศัยสาเหตุของการมีชีวิตหรือการตายเป็นเงื่อนไขในการจ่ายเงินประกันชีวิต
3. ผู้รับประโยชน์ คือบุคคลที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตว่าจะเป็นผู้รับเงินประกันชีวิตตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต
4 หลักการเลือกประกันที่เหมาะสม
การเลือกประกันชีวิตที่ดีและเหมาะสมกับท่านผู้อ่านสามารำถทำได้ดังนี้
●พิจารณารายได้ การทำประกันนั้นอาจถือเป็นหนึ่งในการออมทางเลือกที่หลายคนให้ความไว้วางใจ ที่นอกจากจะเป็นการเก็บเงินก้อนแล้ว ยังเป็นการรองรับความเสี่ยงที่ดีอีกด้วย แต่ทว่าหลายคนก็เลือกจะทำประกันที่มีวงเงินสูง ทำให้ต้องจ่ายเบื้ยประกันสูงตาม เราอาจมั่นใจกับการประกันภัยดังกล่าวในระยะสั้น ทว่าระยะยาวนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินได้ ประกันชีวิตที่เหมาะสมคือ 10-20% ของรายได้
●พิจารณาความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งแม้ว่าจะดูแลสุขภาพดีแค่ไหนแต่ความเสี่ยงในโรคภัยก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การทำประกันสุขภาพไว้ล่วงหน้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการแบ่งเบาความเสี่ยงที่อาจเกิดในอนาคต
●พิจารณาว่าเราเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัวหรือไม่? ครอบครัวต้องพึ่งพิงรายได้ของคนใดคนหนึ่งในครอบครัวเป็นหลัก ควรที่จะมีประกันชีวิตเพื่อคุ้มครอง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น หรืออุบัติเหต จนไม่สามารถทำงาน หรือขาดรายได้ คนข้างหลังจะลำบาก แล้วควรจะทำประกันชีวิตเท่าไหร่ดี ก็ขึ้นอยู่กับรายจ่ายรวมเป็นหลักครับ
ทำไมถึงควรทำประกันตั้งแต่อายุน้อยๆ
การทำประกันในช่วงอายุ 20 ปีจะช่วยให้คุณได้จ่ายเงินทำประกันในอัตราที่ดี เนื่องจากในหลายๆ กรมธรรม์ อายุน้อยกว่าก็ชำระค่าเบี้ยน้อยกว่า วัยรุ่นมีความเสี่ยงน้อยกว่า – สุขภาพถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ และความเจ็บป่วยมักเกิดขึ้นในภายหลัง เหล่าหนุ่มสาวจึงมักจ่ายน้อยกว่า โดยการคำนวณเบี้ยประกันจะคิดอยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยง อายุและสุขภาพของผู้เอาประกันเป็นที่ตั้งอยู่แล้วนั้นเองครับ จึงไม่แปลกที่อายุน้อยๆ ค่าเบี้ยประกันก็จะน้อยตาม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “4 แนวทางการเลือกประกันให้เหมาะกับเรา” ที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกๆ ท่านได้อ่านเป็นความรู้กัน หวังว่าจะชอบกันนะครับ