ทาสีโรยตัวราคา
Lifestyle

เคล็ดลับทางสีบ้านเองอย่างมืออาชีพ

ใคร ๆ ก็ทาสีบ้านเองได้! สำหรับคนที่เบื่อสีเก่าอยากเปลี่ยนสไตล์ใหม่ให้ไม่จำเจ แล้วอยากทาสีด้วยตัวเองไม่ต้องเสียเงินจ้างใคร วันนี้เรามีวิธีการทาสีบ้านเองง่าย ๆ แบบมือใหม่ให้สวยงามไม่แพ้ช่างมืออาชีพมาฝากกัน บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด ลองไปทำความเข้าใจ และเริ่มทำดูกันได้เลยผ่าน 6 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ตรวจสอบสภาพพื้นผิวของบ้านคุณ
ขั้นตอนแรกสุดคือ เราต้องดูสภาพพื้นผิวของบ้านว่าเป็นแบบไหน เพราะว่าการทาสีบ้านเก่ากับบ้าน ใหม่เพิ่งสร้าง จะมีวิธีการดูแลเตรียมพื้นผิว และใช้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังต้องคำนึงถึง บริเวณที่จะทาว่าจะทาภายในบ้าน หรือทาภายนอกบ้าน อีกด้วย เนื่องจากสีทาภายในและสีทา ภายนอก จะมีคุณสมบัติบางสิ่งที่แตกต่างกัน เช่น ประสิทธิภาพความทนต่อสภาพอากาศ ยกเว้น สีทา บ้านบางชนิดที่สามารถทาได้ทั้งภายในและภายนอกหรือสามารถจ้างการทาสีโรยตัวราคา เท่าไหร่มา ประเมินก่อนก็ได้

2. เตรียมอุปกรณ์ทาสี มีอะไรบ้าง ในเมื่อจะทาสีด้วยตัวเอง สิ่งที่ต้องเตรียมนอกจากสี นั่นก็คือ บรรดาอุปกรณ์ทาสี อาทิ แปรงทาสี เกรียงทาสี และลูกกลิ้งทาสี รวมถึงเทปกาวที่ใช้สำหรับกั้นพื้นที่ ๆ ไม่อยากให้สีไปเลอะโดน อย่าง ขอบประตู หรือขอบหน้าต่าง เป็นต้น
เลือกลูกกลิ้งทาสี อย่างไรดี อุปกรณ์สุดคุ้นตาที่เหมาะกับการใช้ทาในพื้นที่เป็นวงกว้าง ส่วนใหญ่ที่ขาย ตามท้องตลาดมี 3 ขนาด ได้แก่ ลูกกลิ้ง 4 นิ้ว, 7 นิ้ว และ 10 นิ้ว
เลือกแปรงทาสีบ้าน อย่างไรดี อุปกรณ์มาตรฐานในการทาสี เหมาะกับการทาในพื้นที่จำกัด ในซอก มุมที่ลูกกลิ้งไม่สามารถทาได้ หัวแปรงมีหลายขนาดตั้งแต่ 1 – 5 นิ้ว และขนแปรงมีหลายแบบ เช่น แปรงขนดอกหญ้า แปรงขนพลาสติก และแปรงขนสัตว์ โดยเราจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับงาน เช่น แปรงทาสี 2.5 นิ้ว จะเป็นขนาดยอดนิยม เป็นต้น

เลือกเทปกาวกั้นพื้นที่ อย่างไรดี การเลือกเทปกาวเพื่อใช้ในการทาสีจะต้องดูเรื่องคราบกาวและการทนการซึม กล่าวคือเมื่อลอกออกมาจะต้องไม่ทิ้งคราบกาวไว้ และเมื่อทาสีเนื้อสีจะต้องไม่ซึมเข้าไปข้างใน โดยสามารถหาซื้อตามร้านค้าวัสดุเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านทั่วไปได้และสามารถดูการทาสีโรยตัวราคา เท่าไหร่ได้ด้วย

ออกแบบ ตกแต่ง ภายใน
Lifestyle

บริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน แบบไหน ที่คุณมั่นใจคุณภาพได้ 100%

ออกแบบตกแต่งในภายใน เปลี่ยนที่อยู่อาศัยให้มีสภาพแวดล้อมดีขึ้น สวยงาม มีพื้นที่ใช้สอย อยากใช้บริการบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน แต่ไม่มั่นใจ กลัวผลงานออกมาไม่ดี ไม่รู้ว่าควรเลือกบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในแบบไหนดี วันนี้เรามีข้อพิจารณามาแนะนำ อยากได้บริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในดีๆ มั่นใจคุณภาพได้ 100% ต้องดูยังไง พิจารณาจากอะไร มาดูกันเลย

นักออกแบบมืออาชีพ

เลือกบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในที่มีมัณฑนากรหรือนักออกแบบภายในมืออาชีพ (Interior Designer) ออกแบบด้วยระบบ 3D เลือกใช้วัสดุเกรดดี มีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา ภายใต้งบประมาณที่มีจำกัด รับแก้ไขแบบ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าลูกค้าจะพอใจ เพื่อให้ลูกค้าได้ผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด

มีทีมโฟรแมนตรวจงาน

เลือกบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน ที่มีโฟรแมนคอยตรวจงานอย่างละเอียด เพื่อให้การตกแต่งภายในมีคุณภาพมากที่สุด โดยทีมโฟรแมนต้องมีประสบการณ์ และคอยประสานงานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงให้คำปรึกษาที่ดีกับลูกค้าได้ตลอดการทำงาน เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพมากที่สุด

ตรวจสอบวัสดุ

ก่อนเริ่มการตกแต่งภายใน บริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในควรมีการตรวจสอบวัสดุโดยละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งมีคุณภาพ ไม่มีวัสดุใดที่ได้รับความเสียหาย เพราะอาจส่งผลต่อโครงสร้าง ทำให้มีอายุการใช้งานสั้น แถมยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ ตามมาด้วย

มีการรับประกันผลงาน

เลือกบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน ที่มีการรับประกันผลงาน หลังจากออกแบบตกแต่งภายในเสร็จสิ้น เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ 100% แต่ละบริษัทอาจมีระยะเวลาในการรับประกันผลงานที่แตกต่างกันออกไป เช่น รับประกันผลงาน 1 ปี 2 ปี 3 ปี ยิ่งมีระยะเวลาในการรับประกันผลงานนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น

ควบคุมงบประมาณได้

บริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในที่มีความเป็นมืออาชีพสูง จะต้องสามารถควบคุมงบประมาณได้ ไม่ให้งบประมาณบานปลายหรือทำให้ลูกค้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในจะต้องควบคุมงบประมาณได้แล้ว ยังต้องสามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตรงเวลาตามกำหนดการด้วย

เอกสารชัดเจนครอบคลุมการออกแบบและรับเหมา

เลือกบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน ที่มีเอกสารชัดเจนครอบคลุมการออกแบบและการรับเหมา หรือเรียกว่าใบสัญญาแบบลายลักษณ์อักษร ก่อนเซ็นยินยอม อย่าลืมอ่านลายละเอียดในสัญญาให้รอบคอบ สัญญาต้องโปร่งใส ไม่เอาเปรียบลูกค้า แสดงออกถึงความจริงใจและความบริสุทธิ์ใจ

คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่า บริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน ที่คุณเลือกใช้บริการนั้น ดีที่สุด หรือบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน แบบไหน ที่คุณสามารถมั่นใจคุณภาพได้ 100% ทั้งหมดนี้ คือคำตอบ และหวังว่าพอจะเป็นแนวทางในการพิจารณาเลือกบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในให้กับคุณได้ เพื่อความคุ้มค่า ความประทับใจและผลงานที่มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการ

ประกันภัยรถยนต์
Lifestyle

มือใหม่เรื่องรถควรรู้ รูปแบบการเคลมประกันภัยรถยนต์มีแบบไหนบ้างนะ

ประกันภัยรถยนต์นับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากกรณีที่ขับขี่แล้วเกิดอุบัติเหตุ การมีประกันรถไว้ย่อมช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ในยามที่รถมีอุบัติเหตุ แม้จะช่วยได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็คงดีกว่าที่เราจะต้องจ่ายเองทั้งหมดคนเดียวแน่ ๆ ในเรื่องนี้เราต่างทราบกันดี ดังนั้น จึงแนะนำว่าทุกคนที่มีรถควรจะพิจารณาทำประกันภาคสมัครใจไว้ด้วย

แต่สำหรับคนที่เป็นมือใหม่เรื่องรถ ถึงแม้จะทำประกันไว้แล้วก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันขึ้นมาก็คงจะยังสับสนไม่รู้ว่าควรจะเคลมประกันภัยรถยนต์แบบไหนอย่างไรดี เพราะยังไม่มีประสบการณ์ ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าการเคลมประกันรถมีแบบไหนบ้าง และในสถานการณ์นั้น ๆ คุณควรจะเลือกเคลมแบบไหน

รูปแบบที่ 1 : การเคลมประกันสด

การเคลมประกันรถแบบนี้อธิบายง่าย ๆ ก็คือการขอเคลมประกันทันทีหลังจากเกิดเหตุ ไม่ว่าอุบัติเหตุเฉี่ยวชนนั้นจะมีคู่กรณีหรือไม่คู่กรณีก็ตาม เมื่อเกิดเหตุขึ้น ก็โทรเรียกพนักงานของบริษัทประกันภัยรถยนต์มาตรวจสอบ ณ  จุดเกิดเหตุเลย เมื่อพนักงานของบริษัทประกันมาถึงที่จุดเกิดเหตุก็จะทำการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น ก็จะถ่ายรูปดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทั้งสองฝั่ง กรณีที่มีคู่กรณี

เมื่อพนักงานทำการเก็บข้อมูลจนครบถ้วนแล้ว ก็จะมีการออกใบเคลมประกันให้กับคุณ ซึ่งคุณก็จะต้องนำเอกสารใบนี้ไปยื่นให้กับที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมเพื่อทำการซ่อมแซมรถส่วนที่เสียหายจากอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายประกันก็จะดูแลให้ตามสัดส่วนความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

  • ข้อดี: เคลมง่าย และมักจะเคลมได้ไม่มีปัญหาใด ๆ
  • ข้อเสีย: ค่อนข้างเสียเวลา เพราะจะต้องรอพนักงานของบริษัทประกันมาถึงจุดเกิดเหตุ หากกำลังรีบเดินทางมีธุระสำคัญต้องไปทำ การเคลมแบบนี้ก็จะทำให้เสียเวลาไปอย่างมาก ยิ่งถ้าเกิดเหตุในช่วงการจราจรที่ติดขัดด้วย บางครั้งต้องรอพนักงานกันนานเลยทีเดียว

รูปแบบที่ 2 : การเคลมประกันแห้ง

การเคลมประกันแบบนี้ก็จะตรงกันข้ามกับรูปแบบที่ 1 คือเป็นการไปขอเคลมประกันภัยรถยนต์ด้วยตนเองภายหลัง ไม่ได้ขอเคลมประกันทันทีหลังเกิดเหตุ วิธีนี้เหมาะกับกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนเพียงเล็กน้อย และสามารถที่จะตกลงกับคู่กรณีได้ว่าใครผิด ใครถูก แต่สิ่งสำคัญของการขอเคลมแบบนี้ก็คือ คุณจะต้องเป็นผู้เก็บบันทึกข้อมูลรายละเอียดของการเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่าง ๆ ของรถเอง

ซึ่งการเก็บบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ก็จะต้องละเอียดและชัดเจนว่าตำแหน่งที่เกิดเหตุคือตรงไหน เวลาใด จุดความเสียหายมีตรงไหนและอย่างไรบ้าง

  • ข้อดี: ง่ายและสะดวก ไม่ต้องมาเสียเวลารอพนักงานจากบริษัทประกัน หากใครรีบร้อนก็สามารถเดินทางไปทำธุระต่อได้เลย แล้วค่อยไปจัดการดำเนินเรื่องของเคลมประกันในภายหลังได้ (แต่ไม่ควรเกิน 2 – 3 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ)
  • ข้อเสีย: มีโอกาสที่จะขอเคลมไม่ได้ หากว่าคุณเก็บข้อมูลไม่ละเอียดพอ ทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนไม่ชัดเจน บางครั้งประกันก็จะไม่เคลมให้ รวมไปถึงหากการบันทึกความเสียหายไม่หมด อย่างมากพบรอยบุบ รอยยุบภายหลังก็จะขอเคลมเพิ่มในครั้งนั้นไม่ได้แล้ว บริษัทประกันจะคิดแยกเป็นอีกกรณีไป

นี่คือ รูปแบบการขอเคลมประกันรถที่มือใหม่เรื่องรถทั้งหลายควรรู้เอาไว้ หากเกิดเหตุขึ้นมาจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร และควรจะเลือกเคลมประกันแบบไหนถึงจะเหมาะในสถานการณ์ ณ ขณะนั้น และถ้าตอนนี้คุณยังไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ สามารถเข้าไปดูข้อมูลเปรียบเทียบประกันจากบริษัทประกันต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของ EasyCompare มีข้อมูลละเอียดมาก หากเจอประกันรถที่สนใจ ก็สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้เลยอีกด้วยนะ

Lifestyle

ความถนัดของนักโปรแกรมเมอร์

ในโลกดิจิทอลเหมือนในปัจจุบัน มีการใช้อุปกรณ์สารสนเทศหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้กับการทำงานและการดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานหรือใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำสูง สามารถคำนวณและวิเคราะห์ข้อมูลได้ค่อนข้างหลากหลายวิธีการ มีการดำเนินการที่ซับซ้อนแต่ใช้เวลาอันสั้น มีการเก็บรวบรวมข้อมูลในเชิงสถิติต่าง ๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลปัจจุบันที่เพิ่งกรอกค่าเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการค้นหาข้อมูลย้อนหลังหรือต้องสูญเสียเวลาในการทำงานไปอีกครั้ง จากที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นทักษะของผู้สมัครงานโปรแกรมเมอร์ที่ต้องมี 

การสมัครงานด้านโปรแกรม 

เทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามามีบทบาทในการเซ็ตระบบปฏิบัติการให้เป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น โดยวางแบบฟอร์มโครงสร้างกระบวนการทำงานออกมาในรูปของโปรแกรมที่สามารถนำมาใช้งานได้เลย เป็นเทคโนโลยีสำเร็จรูป สามารถป้อนค่าเข้าไปแล้วแสดงถึงผลลัพธ์ได้อย่างทันทีทันใดและคำนวณค่าออกมาได้อย่างถูกต้องตามหลักการของพีชคณิต อีกทั้งยังสามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเหล่านี้ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดยใช้ระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ภายในตัวซอฟต์แวร์หรือคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานนั้น ๆ ด้วยระบบปฏิบัติการที่สามารถทำงานได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกเลยที่ในปัจจุบันจึงมักจะมีการเปิดรับสมัครงานโปรแกรมเมอร์เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาและเข้ามาสร้างริเริ่มโปรแกรมสำเร็จรูปเหล่านี้เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของบริษัทนั้นมากยิ่งขึ้น 

การสมัครงานโปรแกรมเมอร์เป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก ในยุคที่ทันสมัย ทุกอย่างมีความสะดวกและรวดเร็วทันใจเหมือนอย่างตอนนี้ เนื่องจากตำแหน่งงานโปรแกรมเมอร์หรืองานด้านความเชี่ยวชาญเฉพาะของระบบปฏิบัติการทำงานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์มากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีผู้สมัครงานโปรแกรมเมอร์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายทรัพยากรบุคคลประจำบริษัทจะต้องคัดสรรกลุ่มผู้สมัครเหล่านี้อย่างถี่ถ้วน โดยอาศัยความรู้ความสามารถและดึงศักยภาพของกลุ่มผู้สมัครเหล่านี้ออกมา เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ได้อย่างตรงจุด สำหรับผู้สมัครมักจะมีความพร้อมความรู้และทักษะเป็นประสบการณ์ในการทำงานอยู่แล้ว ขาดเพียงแค่ทักษะการเชื่อมโยงระหว่างความรู้ ความสามารถ เข้ากับระบบการทำงานของบริษัทนั้น ๆ จึงเป็นเรื่องที่ต้องตกลงพูดคุยกันตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์เพื่อดูทักษะและ Mine Set ของผู้สมัคร ว่ามีทิศทางไปในแนวทางเดียวกันกับบริษัทหรือไม่ นอกจากนี้ยังเป็นการคัดกรองผู้สมัคร โดยแบ่งประเภทของผู้สมัครออก เพื่อให้ง่ายต่อการตามหาผู้สมัครเฉพาะทางอีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันมีโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่มากมายซึ่งมีความถนัดความชื่นชอบที่แตกต่างกัน ในบางคนอาจจะถนัดในด้านของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ บางคนอาจจะถนัดในเรื่องของเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุปกรณ์มือถือเป็นหลักและในบางคนถนัดจัดการเกี่ยวกับระบบเครื่องมือเครื่องจักรภายในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ต้องมีแผงระบบความคิดที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีรายละเอียดสูง โดยจะต้องประเมินเปรียบเทียบกับหน้างานจริงของบริษัทว่าต้องการนักโปรแกรมเมอร์ในส่วนใด เพื่อจะได้คัดผู้สมัครได้ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง